ใครที่หลงเข้ามาใน 0indy ของผม ...ในบทควา่มเรื่องนี้ หลายท่านอาจจะเคยทราบมาแล้ว ก็ข้ามๆ ไปเถอะ
ส่วนท่านใดที่อยากจะศึกษาทฤษฎีดนตรีไว้ประดับสมอง โปรดอ่านความรู้อันน้อยนิดของผมได้เลยครับ
ตัวโน๊ต
อย่างที่เราทราบกันดี หากใครได้เคยเรียนดนตรีไทยมาก่อน (ผมก็เรียน 55)
ในโน๊ตดนตรีไทยนั้น มีโน๊ตทั้งหมด 7 ตัว คือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที
ซึ่ง จริงๆ แล้ว โน๊ตเหล่านี้ เป็นโน๊ตดนตรีสากล ไม่ใช่โน๊ตดนตรีไทย (เรายื๊มเขามานั่นล่ะ)
และการอ่านแบบนี้ เป็นการอ่านแบบละติน (ถ้าจำไม่ผิด) อันเป็นภาษาของชาวโรมันครับ
เมื่อสมัยก่อนโน้น โรมันได้ครอบครองยุโรป ดังนั้น จึ่งทำให้วัฒนธรรมของชาวโรมัน
รวมทั้งภาษาละตินอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวโรมัน ก็ตกทอดสู่ชาวยุโรปทั้งสิ้น
เมื่อเป็นดังนี้ จึงเป็นเหตุให้วงการดนตรีของยุโรป รับเอาการอ่านโน๊ตแบบชาวโรมันมาด้วย
พอสมัยที่ภาษาอังกฤษเข้ามาีมีบทบาทเป็นภาษาสากล (International Language)
ทำให้มีการใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเข้ามาแทนที่การเขียนโน๊ตแบบโรมัน
ผมจึงขออนุญาตเทียบการอ่านออกเสียงโน๊ต กับอักษรภาษาอังกฤษ ดังนี้
โด = C
เร = D
มี = E
ฟา = F
ซอล = G
ลา = A
ที = B
หลายท่านคงสงสัยว่า ทำไมตัวโน๊ตจึงเริ่มต้นที่ C ไม่ใช่ที่ A ตามลำดับอักษร ใช่ไหมครับ?
ตรงนี้ ผมคงต้องตอบว่า เป็นเพราะ ตัวอักษรอังกฤษนั้น แท้จริงได้รับอิทธิพลจากตัวอักษรโรมัน
เมื่อมีการแทนโน๊ตด้วยตัวอักษรอังกฤษซึ่งเขียนง่ายกว่า ก็เลยต้องเทียบเคียงกับของโรมันดั้งเดิม
เพื่อให้ทราบว่า จริงๆ แล้ว ตัวโน๊ตตัวนี้ ทำไมถึงมีการแทนที่กันเป็นแบบนี้นั่นเอง
(ถ้าในสายตาของนักประวัติศาสตร์ วิธีนี้เป็นวิธีการรักษาข้อมูลขั้นปฐมแก่การค้นหาครับ)
ระยะของเสียง
จบจากเรื่องตัวโน๊ตแล้ว เราก็เข้าสู่ขั้นที่สอง คือ ระยะ่ห่างของเสียง ซึ่ีงตรงนี้บางคนไม่ค่อยเข้าใจเลย
เราต้องทราบก่อนครับ ว่า ดนตรีในแต่ละประเทศนั้น มีการกำหนดโน๊ตเป็นเต็มเสียงกันหมด
แต่ดนตรีของภาคพื้นยุโรปนั้น เมื่อพัฒนาจากยุคมืดมาจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance อ่านว่า เรเนสซองส์)
ดนตรีในภาคพื้นยุโรปก็ได้พัฒนา จนเพิ่มเสียงระหว่างตัวโน๊ตด้วย ที่เราเรียกกันว่า ตัวครึ่งเสียง (semi-tone)
โดยไม่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวโน๊ตเดิม แต่มีการเพิ่มสัญลักษณ์ ได้แก่ # (ชาร์ป) และ b (แฟร็ต, จริงๆ ไม่ได้เขียนงี้)
มาที่สัญลักษณ์ตัวแรกนั้น คือ # (ชาร์ป) สัญลักษณ์ตัวนี้ปรากฎอยู่ในบันไดเสียง (Staff) ในลักษณะของการเพิ่มครึ่งเสียง
ส่วน สัญลักษณ์ตัวที่สองนั้น คือ b (แฟร็ต) สัญลักษณ์ตัวนี้จะอยู่ในลักษณ์ตรงกันข้าม อันเป็นตัวลดครึ่งเสียงนั่นเอง
(จริงๆ มีอีกสัญลักษณ์ คือ ตัวเนเชรัล(ไม่มีสัญลักษณ์แทน) เป็นตัวทำให้เสียงกลับสู่สภาพเดิมจากสเกลที่ไม่ใช่ C ครับ)
ที่ต้องเขียนแบบนี้ เพราะบันไดเสียง (Staff) มีทั้งหมด 5 เส้น ครับ ไม่เหมือนกับแท๊บ (Tablature) ของกีต้าร์
ถ้าหากคนโบราณ ไม่ใช้สัญลักษณ์ # (ชาร์ป) แล b (แฟร็ต) แทนแล้ว จะทำให้ต้องสร้างบรรทัดเพิ่ม
ซึ่งตรงนี้ เป็นการยากต่อการเขียนโน๊ตเพลงเป็นอย่างมาก ที่สำคัญ คือ เปลืองหน้ากระดาษมากๆ ครับ
ผมขออนุญาตเขียนโน๊ตทั้งหมด และรวมถึงโน๊ตตัวครึ่งเสียง เพื่อง่ายต่อการพิจารณา ดังนี้
กรณี # (ชาร์ป)
C - C# - D - D# - E - F - F# - G - G# - A - A# - B - C
กรณี b (แฟร็ต)
C - Db - D - Eb - E - F - Gb - G - Ab - A - Bb - B - C
จะเห็นได้ว่า มีตัวโน๊ตที่อยู่ตรงแนวเดียวกัน หรือเป็นตัวเดียวกันอยู่ แต่เรียกชื่อต่างกัน
(ตรงนี้ เป็นเรื่องของสเกลในเพลงครับ ถ้าคนที่ศึกษาถึงขั้นสเกล และโหมดไปแล้วจะทราบ)
โน๊ตตัวเดียวกัน แต่เรียกชื่อต่างกันนั้น ได้แก่
C# = Db
D# = Eb
F# = Gb
G# = Ab
A# = Bb
ทั้งหมด มีอยู่ด้วยกัน 5 ตัว และ ไม่ใช่ใช้แค่เพียงตัวโน๊ตครับ ในคอร์ดกีต้าร์เองก็ใช้
ดังนั้นถ้าใครเจอคอร์ด เช่น A#m ก็พึงระลึกได้เลยว่า มัน คือ Bbm เป็นต้น
เรามาลองไล่โน๊ตในกีต้าร์ดูแล้วกันครับ จะได้เห็นภาพชัดขึ้น ผมขอใช้สาย 1 (E) อย่างเดียวนะครับ
กรณีของ # (ชาร์ป)
E|---8(C)---9(C#)---10(D)---11(D#)---12(E)---13(F)---14(F#)---15(G)---16(G#)---17(A)---18(A#)---19(B)---|
กรณีของ b (แฟร็ต)
E|---8(C)---9(Db)---10(D)---11(Eb)---12(E)---13(F)---14(Gb)---15(G)---16(Ab)---17(A)---18(Bb)---19(B)---|
** (ตัวข้างหลัง คือ ตัวโน๊ตนะครับ) **
FAQ
1. ทำไม E และ F กับ B และ C ถึงไม่มีเสียงระหว่างกลาง?
- เป็นเพราะคลื่นเสียงที่มากระทบหูครับ ตรงนี้ศึกษาลึกซึ้งมาก ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน
2. เราสามารถเอาเรื่องตัวโน๊ตไปใช้กับกีต้าร์ได้มากไหม?
- เอาที่ง่ายที่สุดแล้วกันนะครับ คือ เราสามารถทราบถึงคอร์ดได้ทั้งหมด โดยการเลื่อนไปข้างหน้า หรือถอยหลัง
เช่น เราวางนิ้วเป็นคอร์ด F แล้วลองเลื่อนไปข้างหน้าอีก 1 บาร์ จะกลายเป็นคอร์ด F#
และถ้าเลื่อนไปอีก 1 บาร์ ก็จะกลายเป็นคอร์ด G เลื่อนไปอีก 1 บาร์ ก็เป็นคอร์ด G#
และถ้าเลื่อนไปอีก 1 บาร์ ก็เป็นคอร์ด A แบบนี้ เป็นต้น แบบนี้เราก็สามารถรู้คอร์ดเกือบทั้งหมดแล้วครับ 555+
3. Fb, E#, B# และ Cb มีไหม?
- มีครับ คือ
Fb = E
E# = F
B# = C
Cb = D
หากใครมีปัญหาข้องใจในเรื่องตัวโน๊ต เชิญถามได้นะครับ ถ้าผมตอบได้ ผมจะพยายามตอบเต็มที่